ความลับ 3 ข้อ เกี่ยวกับแพคเกจจิ้งของแบรนด์ดัง

ความลับ 3 ข้อ เกี่ยวกับแพคเกจจิ้ง (packaging) ของแบรนด์ดัง

           

คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) เครื่องสำอางเคาท์เตอร์แบรนด์ เช่น Chanel  Clinique  หรืออีกหลายแบรนด์ดังที่มีการออกแบบแพคเกจจิ้ง (packaging) ดูเรียบง่าย ลวดลายไม่เยอะ แต่ดูดี ดูแพง วันนี้ BKK PAPER BOX จะมาไขความลับที่ทำให้กล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ของคุณดูดีระดับสินค้าเคาท์เตอร์แบรนด์ดังและทำให้ยอดขายปังได้อีกด้วย!!!



ความลับ 3 ข้อ ที่คุณต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ของคุณ มีดังต่อไปนี้

1.สไตล์  คุณต้องกำหนดภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าของคุณให้ชัดเจนว่า คุณมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าวัยใด เพศใด วางขายแบบไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณตีกรอบสไตล์การออกแบบได้ง่ายขึ้น ต่อจากนั้นให้คุณสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ หรือสร้างภาพลักษณ์ที่สื่ออารมณ์ความรู้สึกออกมาผ่านรูปแบบในสไตล์ต่างๆ ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มากที่สุด เช่น สไตล์มินิมอล สไตล์หรูหรา หรือสไตล์สีสันสดใสน่ารัก โดยคุณสามารถหาแนวการออกแบบที่ชอบได้จากเว็บไซด์ต่างๆ แล้วลองนำรูปแบบที่ชอบมาเปรียบเทียบกันหลายๆ รูป เพื่อใช้เป็นเดียในการออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงแบรนด์สินค้าของคุณมากที่สุด

          


 

 

2. โทนสี  ในการเลือกสีของแพคเกจจิ้ง (packaging) จะต้องเป็นสีที่เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เป็นสีที่สามารถดึงดูดสายตา และความสนใจของลูกค้า และที่สำคัญจะต้องโดดเด่นกว่าสินค้าอื่น เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของเราได้ทันทีที่พบเห็น ยกตัวอย่าง เทรนด์การแต่งหน้าโทนชมพู แบรนด์สินค้าส่วนมากจะออกแบบกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) เป็นโทนสีชมพูแบบเดียวกันหมด เพื่อให้สีกล่องกลมกลืนไปกับเนื้อสีด้านใน ดังนั้น เมื่อคุณออกแบบกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging)เป็นสีชมพูเหมือนแบรนด์อื่นๆ มันก็ไม่มีความแตกต่างและไม่ดึงดูดสายตาลูกค้าได้เลย คุณควรใช้ช่องทางนี้ในการออกแบบโทนสีที่ตัดกับสีชมพูไปเลย เพื่อให้เกิดความโดดเด่นและสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ของคุณ หรือการใช้โทนสีตรงข้ามกับผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมทามือที่ให้ความรู้สึกอ่อนโอน โดยทั่วไปจะเป็นแพคเกจจิ้ง (packaging) โทนสีอ่อน คุณลองเปลี่ยนเป็นกล่องที่มีสีสันสดใสก็ได้อารมณ์ความรู้สึกใหม่ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ได้นะคะ หรือกล่องมาสคาร่าก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกล่องสีดำเสมอไป

 

           

         

3. ฟ้อนต์อักษร การเลือกฟ้อนต์ต้องคำนึงถึงความโดดเด่น น่าสนใจ และแปลกตาเช่นกัน ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับสไตล์ของแบรนด์ เช่น ฟ้อนต์ตัวอักษรหนาจะช่วยสร้างความโดดเด่น ฟ้อนต์ตัวอักษรบางจะเน้นความเรียบง่าย สบายตา นอกจากนี้เรื่องความเหมาะสมของตัวฟ้อนต์บนตัวกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ก็สำคัญ หากว่ากล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ของคุณมีขนาดเล็ก ฟ้อนต์ที่ใช้ก็ไม่ควรจะใหญ่หรือมีสีฉูดฉาดจนเกินไป ในขณะเดียวกันหากว่ากล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) มีขนาดใหญ่ ฟ้อนต์ก็จะต้องไม่เล็กและบางจนลูกค้ารู้สึกว่าอ่านยากเกินไป แบรนด์ดังอย่าง CHANEL ใช้อักษร sans serif ซึ่งจะให้ความรู้สึกทันสมัย ดูหรู สบายตา หรือ แบรนด์หวานๆ สไตล์ผู้หญิงอย่าง Too Faced ใช้เป็นฟ้อนต์ตัวเขียนภาษาอังกฤษที่มีความอย่างโยน เหมาะกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ นอกจากนี้ยังมี Clinique และ SK-II ที่ใช้ฟ้อนต์เรียบง่าย ดูสะอาดสบายตา ซึ่งคุณเองจะลองนำไปใช้ตามก็ไม่ผิดนะคะ

 

         

 

          

สุดท้าย คือ การรวบรวมข้อมูลที่ต้องมีบนกล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) เช่น ข้อมูลวันหมดอายุ วันผลิตสินค้า ภาพสินค้า ภาพกราฟฟิก รายละเอียดข้อมูลส่วนประกอบ ข้อมูลผู้จัดจำหน่าย เป็นต้น ควรมีการจัดวางบนกล่องที่ดูไม่แน่นจนเกินไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวางเลเอาท์ของข้อมูลในแต่ละส่วน โดยทำให้ดูสบายตาและอ่านง่ายที่สุด เท่านี้กล่องแพคเกจจิ้ง (packaging) ของคุณก็สวย perfect เหมือนสินค้าแบรนด์ดังแล้วค่ะ

 

หากต้องการคำปรึกษาเรื่องการออกแบบและการผลิตแพ็คเกจจิ้ง สามารถปรึกษากับ BKK PAPER BOX ได้นะคะ

 พูดคุยเพิ่มเติม Add Line เดียว สอบถามได้ทั้งงานสั่งทำและปรึกษางานนะคะ

 Line ID : @bkkpaperbox 

 โทรสอบถามเพิ่มเติม
เอวา 0956519893
เอ็มมี่ 0933264882

 
ข้อมูลประกอบจาก : www.99designs.com , www.derma-innovation.com

ภาพประกอบจาก : www.pinterest.com

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้